สถานที่ตั้ง ตำบลสิงห์ อำเภอไทรโยค จังหวัดกาญจนบุรี

ประวัติความเป็นมา
เป็นเมืองที่สร้างขึ้นตั้งแต่ขอมมีอำนาจ ประมาณ พ.ศ. ๑๔๐๐ - ๑๗๐๐ ครั้นเมื่อขอมหมดอำนาจและไทยได้เข้ามาครอบครองดินแดนแถบนี้แทน ในสมัยกรุงศรีอยุธยา คงเห็นว่าเมืองสิงห์เป็นเมืองเล็กไม่มีความสำคัญจึงมิได้แต่งตั้งผู้ใดมาเป็นเจ้าเมือง คงปล่อยให้ร้างไปหลังจากขอมหมดอำนาจลง เมื่อถึงรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลก จึงได้ทรงตั้งเมืองสิงห์ขึ้นใหม่อีกครั้ง และแต่งตั้งเจ้าเมืองมาครองในฐานะเป็นเมืองหน้าด่านขึ้นอยู่กับจังหวัดกาญจนบุรี เมืองสิงห์คงมีสภาพเป็นเมืองมาจนถึงสมัยพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว จึงได้เปลี่ยนแปลงการปกครองใหม่โดยจัดให้เป็นแบบมณฑลเทศาภิบาล เมืองสิงห์ จึงถูกยุบลงกลายเป็นตำบล ขึ้นอยู่กับอำเภอไทรโยคมาจนปัจจุบัน

ลักษณะทั่วไป
ปราสาทเมืองสิงห์ เป็นโบราณสถานเพียงแห่งเดียวที่มีศาสนสถานสร้างอยู่ในบริเวณกึ่งกลางเมือง เป็นโบราณสถานที่มีศิลปะการก่อสร้างในยุคลพบุรีตอนปลาย มีลักษณะเป็นเมืองที่มีกำแพงทำด้วยศิลาแลงรูปสี่เหลี่ยมผืนผ้าล้อมรอบ กำแพงด้านในถมดินลาดเป็นคันกำแพง กำแพงเมืองมีขนาดกว้าง ๘๘๐ เมตร ยาว ๑,๕๐๐ เมตร สูง ๕ เมตร นอกกำแพงเมืองรอบนอกทางด้านทิศตะวันออกและด้านทิศเหนือมีกำแพงดินขาดเป็นตอน มีซากให้เห็น ๓ ชั้น และทางด้านทิศตะวันตกมีซากกำแพงดินเหลืออยู่อีก ๗ ชั้น

หลักฐานที่พบ
จากการขุดแต่งบริเวณปราสาทเมืองสิงห์ โดยเจ้าหน้าที่กองโบราณคดี ได้พบประติมากรรมศิลปะขอมแบบบายนในพุทธศาสนาลัทธิมหายานที่สำคัญหลายชิ้น ได้แก่ ประติมากรรมรูปพระโพธิสัตว์อวโลกิเตศวร นางปรัชญาปารมิตา และชิ้นส่วนของพระพุทธรูป เป็นต้น

เส้นทางเข้าสู่ปราสาทเมืองสิงห์
ทางรถไฟ : ขึ้นรถไฟสายธนบุรี - น้ำตก จากสถานีกาญจนบุรีไปลงที่สถานีท่ากิเลน แล้วเดินทางไปตามทางรถยนต์ ประมาณ ๑,๗๐๐ เมตร
ทางรถยนต์ : ได้ ๒ ทาง สายกาญจนบุรี - ลุ่มสุ่ม ถึงทางแยกเข้าสถานีรถไฟท่ากิเลน เลี้ยวซ้ายตรงทางแยกไปประมาณ ๒๐๐ เมตร ส่วนอีกทางออกจากตัวจังหวัดกาญจนบุรีไปตามถนนสายเอเซียประมาณ ๔๐ กิโลเมตร เข้าสถานีรถไฟท่ากิเลนเดินทางต่อไปอีกประมาณ ๗ กิโลเมตร
ทางเรือ : ขึ้นเรือที่ปราสาทเมืองสิงห์ ใช้เวลาเดินทางประมาณ ๔ ชั่วโมง